ยิ่งเราอายุมากขึ้น ก็ยิ่งมีโอกาสข้อเข่าเสื่อมมากขึ้น
ชวนสังเกต 5 อาการข้อเข่าเสื่อม ลองเช็คด่วน!!!

ข้อเข่าเสื่อม บางคนจะมารู้ก็ต่อเมื่ออายุมากแล้ว แต่รู้ไหมว่า บางคนก็
อาจเริ่มมีสัญญาณของผิวข้อเข่าเสื่อมเริ่มต้นตั้งแต่ยังหนุ่มยังสาว ลองสังเกตตัวเองดู

สาเหตุข้อเข่าเสื่อม

: เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อ ทั้งทางด้านรูปร่าง โครงสร้าง การทำงานของกระดูกข้อต่อและกระดูกบริเวณรอบข้อ

สังเกตอย่างไรว่าคุณเริ่มมีอาการเข่าเสื่อม ลองเช็คอาการตามนี้ได้เลย

• เข่าฝืดหรือข้อหนืด ข้อมักฝืดตึงหลังตื่นนอนตอนเช้าโดยเป็นเวลามากกว่า 30 นาที
  
  
• เข่ากรอบแกรบ มีเสียงดังกรอบแกรบในข้อเข่าขณะเคลื่อนไหว
  
  
• กดเจ็บกระดูก กดเจ็บที่กระดูกข้อเข่า การกดเจ็บมักอยู่ในเส้นแนวของข้อต่อ
  
  
• ข้อใหญ่ ข้อใหญ่ผิดรูป อาจดูขาโก่ง หรือเข่าฉิ่ง แม้จะดูเข่าใหญ่ แต่กล้ามเนื้อรอบๆ ข้อเข่าลีบเล็กไม่ได้ดุลกัน
  
  
• ข้อไม่ร้อน ไม่พบว่ามีอาการข้ออุ่น พวกข้อปวดบวมแดงร้อน มักเป็นในข้ออักเสบแบบโรคเกาต์ หรือรูท์มาตอยด์มากกว่าส่วนข้อเข่าเสื่อมมักไม่ร้อน

ถ้า"ใช่" ตั้งแต่ 2 ข้อ ขึ้นไป มีโอกาสที่จะเป็น โรคข้อเข่าเสื่อมได้

ถ้าหากใครเริ่มมีอาการปวดเข่า คุณอาจทำสิ่งเหล่านี้ 5 พฤติกรรมที่ทำลายข้อเข่าโดยไม่รู้ตัว  
รู้แล้วให้รีบหยุด เพื่อยืดอายุข้อเข่าดีไปนานๆ

• นั่งไขว่ห้าง
  การติดนั่งไหว่ห้างเป็นประจํา การที่หัวเข่าถูกบิดผิดรูปบ่อยๆ ส่งผลโดยตรง ต่อกระดูกข้อเข่า
  เข่าข้างที่ไหว้กับบนอยู่เสมอมักจะเริ่มปวดก่อน อีกข้างนึง
  
  
• นั่งยองๆ เป็นเวลานานๆ
  ไม่ว่าจะเป็นปลูกต้นไม้ ซักผ้า การนั่งยอง ๆ คือท่าที่ทําให้ผิวข้อเข้าถูกอัดบีบอย่างรุนแรงที่สุด
  
  
• ยืนบนส้นสูงทั้งวัน
  ทําให้นํ้าหนักตัวเทไปด้านหน้าที่ปลายเท้า แทนที่จะอยู่บนส้นเท้า
  ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทําร้ายทั้งกระดูกสันหลังที่ต้องเกร็ง ตลอดเวลาและยังทําร้ายข้อเข่าที่ถูกกดลงผิดตำแหน่งด้วย
  
  
• ยืน - เดิน นานๆ
  ทําให้เกิดแรงกดไปที่หัวเข่า เมื่อเมื่อยล้า ร่างกายจะพยายาม ล็อกหัวเข่า ทําให้เข้าแอ่น
  และหลังแอ่นมากขึ้น จนเกิดเป็น อาการปวดเข่าและหลัง
  
  
• ปล่อยให้น้ำหนักตัวมากเกิน
  นํ้าหนักตัวที่มาก ก็ยิ่งเพิ่มแรงกดบีบลงบนผิวข้อเข่าให้เลื่อม ถูกทําลาย และบางเร็วขึ้น
  

ดูแล เข่าให้แข็งแรง ด้วยการรักษาแบบผสมผสาน

ช่วยลดการอักเสบ ปวด และเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อเข่า ช่วยให้การใช้งานข้อเข่าดีขึ้นได้

• กายภาพบำบัด รักษาระบบกล้ามเนื้อ ข้อ กระดูก เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและการเคลื่อนไหว ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย
  

• แพทย์แผนไทย ที่มีทั้งการใช้ทั้งหัตถเวชศาสตร์ เภสัชเวชศาสตร์ในการรักษา เพื่อรักษาอาการตามหลักกายวิภาค ด้วยการนวดกดจุดรักษาตามแนวกล้ามเนื้อและจุดสัญญาณ พร้อมทั้งแช่มือสมุนไพรคลายกล้ามเนื้อ
  
• แพทย์แผนจีน เน้นปรับสมดุลในร่างกาย ด้วยการฝังเข็มสลายปมจุดปวด และครอบแก้ว เดินแก้ว รมยา นวดทุยหนา เป็นต้น